ม้ง หรือ แม้ว
ม้งมีภูมิลำเนาอยู่ในภาคเหนือของประเทศกระจายออกไปถึง 13 จังหวัด ถิ่นที่พบมากคือจังหวัดเชียงราย ตาก น่าน เชียงใหม่ และเพชรบูรณ์ม้งในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือม้งจั๊ว ถูกเรียกเป็นภาษาไทยว่าแม้วน้ำเงินหรือแม้วลาย อีกกลุ่มหนึ่งคือม้งเด๊อหรือเรียกเป็นภาษาไทยว่าแม้วขาว
การแต่งกาย
ม้งเป็นนักปักที่ลือชื่อภาพชาวม้งที่เราคุ้นตามักจะเป็นม้งลายที่ผู้หญิงจะนุ่งกระโปรงจีบอัดกลีบรอบตัว ยาวแค่เข่าผ้าใยกัญชงหรือฝ้ายทอมือ เขียนลวดลายบาติกอันเป็นเอกลักษณ์ของม้ง ส่วนเสื้อจะเป็นผ้าสีดำแขนยาว สวยพิสดารด้วยฝีเข็มปักและลายปะละเอียดยิบ และมีรัดน่อง นอกจากนี้ เวลาแต่งตัวครบเครื่องจริงๆ ยังมีผ้ากันเปื้อนปักประดับกันวิจิตรงดงามคาดทับกระโปรงอีกที
ส่วนผู้ชายม้งจะสวมกางเกงขายาวสีดำหลวมๆ เป็นหย่อนลงมาเกือบถึงปลายขา สวมเสื้อแขนยาวผ่าอก สีดำเสื้อตัวสั้นลอยอยู่เหนือเอวมีการปักประดับลวดลายที่สาบ ชาวม้งนิยมใช้เครื่องประดับเงิน ทั้งชายและหญิงจะมีกำไลเงินประดับรอบคอกัน
ในประวัติศาสตร์อดีตของชาวม้ง มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ในลักษณะที่ต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติขาดความช่วยเหลือจากโลกภายนอก และมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดต่อๆมาเป็นของตนเอง จึงดูเหมือนว่าชาวม้งมักจะไม่มีความไว้วางใจต่อคนแปลกหน้ามากนัก ดังนั้นการที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ที่ต้องการกระทำด้วยความจริงใจและค่อยเป็นค่อยไป แต่ในปัจจุบันชาวม้งหรือแม้วมีการติดต่อกับโลกภายนอกมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนพื้นราบ เรามักจะพบกับชาวม้งลงจากดอยเข้ามาหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ หรือติดต่อค้าขายทำธุรกิจกับคนเมืองมากขึ้น
ชาวม้งหรือแม้ว มีลักษณะนิสัยมีความขยันขันแข็งมีความอุตสาหะเป็นพิเศษ ชีวิตประจำวันปกติ พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาว่างจากการทำงานเลยทั้งหญิงและชาย นอกจากงานในไร่แล้ว ผู้ชายยังต้องรับผิดชอบในการซ่อมแซมบ้านเรือน วัสดุ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในครัวเรือน ตลอดจนการติอต่อค้าขาย ทำธุรกิจกับคนภายนอก เมื่อว่างจาการงานก็จะออกไปล่าสัตว์นำมาเป็นอาหารบ้าง
สำหรับผู้หญิงแม้ว นอกจากงานในไร่ยังจะต้องรับผิดชอบในเรื่องจดหาอาหาร เลี้ยงสัตว์ ทำความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ยามว่างก็จะเย็บปักถักร้อย ประดิษฐ์ลวดลายต่างๆ ลงบนลายผ้าเอาไว้ใช้ตัดเย็บใส่เสื้อผ้าเป็นต้น
ชาวม้งมีนิสัยรักความเป็นอิสระ ซึ่งเป็นลักษณะที่เด่นชัดประวัติศาสตร์ของม้งหรือแม้ว จะเห็นได้ว่าพยายามหลีกเลี่ยงการถูกกดขี่และครอบงำจากจีนมาตลอดมาจนบางครั้งทำให้เกิดการต่อสู้และเป็นผลทำให้มีการอพยพลงมาทางใต้ของชาวม้ง เช่นในปัจจุบัน
ม้งหรือแม้วปกติเป็นคนฉลาดกว่าชาวเขาเผ่าอื่นๆที่มีอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะการคิดคำนวณ ทั้งนี้เนื่องจากอาจจะเป็นเพราะว่าชาวม้งมีนิสัยด้านการค้าขาย ลักษณะโดยทั่วไปแม้ไม่ค่อยจะวางใจในตนแปลกหน้า แต่เมื่อได้สังเกตดูจนเป็นที่พอใจแล้ว พวกเขาก็จะมีท่าทีที่ค่อนข้างจะเปิดเผยจริงใจ และซื่อสัตย์มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการทำธุรกิจทางการค้าขาย
จากอดีตที่ผ่านมาพบว่าพวกเขามักจะแสดงออกถึงการถ่อมตัวและหลีกเลี่ยงการปะทะและการขัดแย้ง แต่หากไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ หรือรู้สึกว่าถูกละเมิดเอาเปรียบพวกเขาก็จะแสดงอาการที่ก้าวร้าวและตอบโต้ในทางที่รุนแรง
ลักษณะนิสัยของชาวม้งหรือแม้วอีกประการหนึ่ง พวกเขาก็จะมีความละเอียดอ่อน ในเรื่องของการรักษาหน้ารักษาชื่อเสียง หนุ่มสาวบางรายอาจจะตัดสินใจกินฝิ่นจนตาย หากรู้สึกว่าตนเองต้องเสียหน้า ทำให้อับอายอย่างมากหรืออกหักสูญเสียคนรักไป หรือถูกด่าว่ารุนแรงจากพ่อแม่ พี่น้อง เป็นต้น
แต่ลักษณะหรือค่านิยมเหล่านี้ก็มิได้ยึดถือและครอบคลุมไปทุกคนเพราะปัจจุบันชาวม้งเริ่มมีการปรับเปลี่ยนค่านิยม ที่เปลี่ยนแปลงไปตามค่านิยม ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสังคมและวัฒนธรรมภายนอกมากขึ้น
โดยปกติตามจารีตประเพณี สังคมของแม้ว มีการสืบสกุลทางฝ่ายชายบุตรชายจะเป็นผู้สืบทอดหน้าที่ทางพิธีกรรมต่างๆ ต่อจากบิดา การแต่งงานจะรับรู้ในลักษณะความหมายในการซื้อเมีย เพราะฝ่ายชายจะต้องจ่ายค่าสินสอด ซื้อตัวเจ้าสาว ออกมาจากครอบครัวมาเป็นสมาชิกแรงงานใหม่ในครอบครัวของฝ่ายชาย และไม่ว่าจะในกิจกรรมใดๆก็ตามส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นผู้ชี้ขาดตัดสินเป็นเสียงสุดท้าย
เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ผู้ชายแม้วจะพิจารณาเลือกสาวมาเป็นคู่ครองคือ ต้องมีความขยันขันแข็งและแข็งแรง ส่วนความสวยนั้นมาเป็นอันดับรอง ในทำนองเดียวกันหากหนุ่มแม้วคนไหนขี้เกียจ ติดฝิ่น ก็ย่อมยากที่จะหาสาวมาเป็นภรรยาได้ เพราะลักษณะนิสัยของแม้ว จะต้องเป็นบุคคลที่ขยันต่องานอย่างจริงจัง และเนื่องจากสังคมของแม้วยังนิยมใช้แรงงานคนเป็นสำคัญ ครอบครัวหนึ่งๆก็ควรจะมีแรงงานมากพอสมควร ดังนั้นแม้วจึงนิยมมีบุตรหลายคน ครอบครัวไหนมีลูกหลานมาก ก็หมายถึงมีแรงงานมากมาก การเพาะปลูกและผลผลิตก็ย่อมจะได้มากตามไปด้วย ซึ่งจะทำให้สถานะทางเศรษฐกิจภายในครอบครัวมีความเจริญยิ่งขึ้น
ลักษณะของชาวม้งหรือแม้ว จะมีรูปพรรณท่าทางการพูดจาคล้ายคนจีนแต่ลักษณะโดยทั่วไปม้งจะมีผิวคล้ำกว่าจีนเล็กน้อยสำหรับผู้ชายจะมีรูปร่างสูงกว่าหญิงเล็กน้อย ผู้หญิงม้งหรือแม้วรูปร่างมักจะได้สัดส่วน บางคนมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้างจะสวยคล้ายคนจีน ลักษณะโดยทั่วไป พวกม้งจะมีความอยากรู้อยากเห็น แต่ค่อนข้างจะขี้อายพยายามหลบหน้าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้าน จนกว่าจะแน่ใจเสียก่อน
พวกม้งหรือแม้วไม่มีภาษาที่แน่นอน ส่วนใหญ่มักจะยืมภาษาจีน ภาษายูนนาน ภาษาลาว และภาษาไทยภาคเหนือมาใช้ นอกจากนี้ม้งยังไม่มีตัวหนังสือเป็นของตนเองอีกด้วย เล่ากันว่า เดิมม้งมีหนังสือใช้เหมือนกัน แต่ต้องอพยพหลบภัยอยู่เสมอ จึงขนหนังสือใส่หลังม้า เดินทางมาถึงลำธารแห่งหนึ่งก็ปลดม้าวางตะกร้าหนังสือเอาไว้ และพากันนอนหลับไป จนม้ากินหนังสือหมด ชาวม้งจึงไม่มีหนังสือใช้จนทุกวันนี้
ชาวม้งมีเครื่องหมายกรีดบนท่อนไม้เล็กๆ ใช้แทนตัวหนังสือ เช่น แสดงความรักความคิดถึงก็เอามีดมาแกะท่อนไม้เป็นรอยตรงๆ 4 รอย ก็แสดงถึงความรักอย่างท่วมท้นแล้ว ถ้าเป็นรอยเฉียงๆ ก็แสดงว่าความรักนั้นได้ขาดลงไปแล้ว เป็นต้น หรือถ้าแกะเป็นรอยตรงๆ 2 รอย ห่างกันทางหัวไม้ท้ายไม้ ปักขนไก่กับพริกขี้หนูติดไปด้วย ฝากไปให้ญาติห่างไกล นั่นแสดงว่ามีเรื่องด่วนหรือธุระต้องการที่จะพบหากันด่วนเป็นต้น
ปัจจุบันในเรื่องการศึกษา ชาวเขาเผ่าม้งหรือแม้วมักจะให้ความสนใจในการศึกษามากกว่าชาวเขาเผ่าอื่นๆ ที่มีในประเทศไทย จึงทำให้ม้งหรือแม้วมีความเฉลียวฉลาดและทันต่อเหตุการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันมากขึ้น
น.ส.จิรัฐติกาล ชมเย็น เลขที่ 7
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น